เดือนที่แล้วเป็นเดือนที่เรียกได้ว่า จ่ายเยอะ จ่ายหนัก เงินไหลออกเป็นน้ำเลยก็ว่าได้ สาเหตุนึงเป็นเพราะว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นมา แล้วก็ได้ซื้อของที่อยากได้มาหลายชิ้นเหมือนกันครับ
คือถ้ารวมมูลค่าของทั้งหมดที่ซื้อ (โดยไม่นับทริปเที่ยวนะ) ก็เป็นแสนครับ ถือว่าเปย์กันสนุกเลยทีเดียว ก็เดี๋ยวมาดูกันว่าเปย์อะไรมาบ้าง
1. Virtual Reality
ไฮไลท์ของช่วงนี้เลยคือ VR ซึ่งผมซื้อมาสองตัว เป็น HTC Vive (Steam VR) กับ PlayStation VR สองตัวนี้รันอยู่บนคนละระบบกัน ทำงานกับเกมคนละแพลตฟอร์มกัน ก็เลยต้องตัดใจซื้อมันทั้งสองอย่าง เพราะว่าแต่ละแพลตฟอร์มก็มีเกมที่น่าสนใจแตกต่างกันไปพอสมควร
ถ้าในแง่ความรู้สึกการใช้งาน ผมไม่ค่อยรู้สึกว่ามันแตกต่างกันเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่าผมไม่มีเกมซ้ำกันในสองแพลตฟอร์มนี้ ก็เลยเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ถ้าในแง่ความสบายในการใช้ผมว่า PSVR กินขาดนะ เพราะมันสบาย ใส่ง่าย และปรับสายง่ายมากครับ ส่วน Vive เนี่ยสเปคสูงกว่าก็จริงแต่ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่
อ้อ Vive รองรับ Room Scale VR ด้วย ซึ่งผมยังไม่ได้ลอง ผมไม่มีพื้นที่ว่างขนาดนั้นเลยยากหน่อยครับ
2 Drawing Tablet
ปีที่แล้วผมหิ้วเจ้า Wacom Intuos Pro M มาก็ใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง แต่ปีนี้ไปพบว่า Cintiq Pro ลดราคาลงมาค่อนข้างแรง (ลดประมาณ 12,000 เยน) ผมก็เลยหิ้ว Cintiq มาด้วย ซึ่งมันใช้งานง่ายกว่ามากเนื่องจากว่ามันมีจอในตัวด้วย ทั้งนี้ถ้าไม่นับเรื่องหน้าจอและขนาดแล้ว สองตัวนี้ผมว่าแทบจะเหมือนกันครับ
3 Software
ผมทดลองซื้อซอฟต์แวร์สามมิติหลายตัวมาในช่วงนี้ (เพราะมีเซลล์พอดี) โดยตัวที่จะพูดถึงคือ Marvelous Designer 8 ราคาเต็มตัวเจ้านี่โหดมาก ๆ แต่ว่ามันจะมีไลเซนส์ย่อย ๆ ซึ่งราคาจะลดลงเหลือแค่ 10% ของราคาเต็ม (จากแสนสองเหลือประมาณหมื่นสอง) เป็นไลเซนส์ที่ใช้งานได้เฉพาะกลุ่ม Freelance มั้ง แล้วไลเซนส์ตัวนี้ที่ขายบนสตีมก็ลดลงราคาลงอีกเหลือประมาณเก้าพัน ก็เลยถือจังหวะนี้สอยมาเลย
โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมออกแบบเสื้อผ้า หลัก ๆ ก็คือการทำ cloth simulation ซึ่งถ้าไปทำบน modeller ปรกติมันจะกินเวลามาก (หรือออกมาไม่ค่อยสวย) และจุดที่ได้เปรียบก็คือความสมจริง เพราะว่าเราใช้แพทเทิร์นเสื้อผ้าจริง ๆ ในการทำเลย ต่างกับการใช้โมเดลเลอร์ซึ่งบางทีคนทำโมเดลเองก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วหน้าตาควรจะเป็นอย่างไรครับ
นอกจาก Marvelous Designer แล้ว ผมก็มีซื้อ Marmoset Toolbag กับชุด Substance Painter+Designer (เป็นชุดทำ material) ซึ่งตรงนี้เป็นโปรแกรมที่โปรใช้หมดเลย เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ใช่สายกราฟิคก็ยังคิดว่าจะเสียเปล่าหรือเปล่า แต่มองว่าถ้าเราอยากจะคุยกับคนทำกราฟิครู้เรื่องก็ต้องศึกษาเอาไว้บ้างครับ ก็เลยตัดใจซื้อมา
4 Game
เกมที่ซื้อในช่วงนี้ก็ เป็นเกม VR อยู่จำนวนนึง เช่น Summer Lesson, Beat Saber, VR Kanojo, Doom VFR นอกนั้นก็จะเป็นพวกเกม RPG ซะส่วนใหญ่ครับ
ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้ลอง VR เนี่ย คือเรารู้สึกว่ามันใหม่นะ (สำหรับเรา) สิ่งที่เราเคยเห็นบนจอมันใกล้ไปหมดเลย มันทำให้อินกับเกมได้มากขึ้น และบางทีมันก็น่ากลัวมากด้วย เป็นประสพการณ์ที่แปลกใหม่และใกล้ชิดดีครับ
โปรแกรมเมอร์ C++ และผู้นิยมดนตรี